ชุดชั้นในของสาวๆอกเล็ก

สำหรับสาวๆอดเล็กแล้ว หน้าอกหน้าใจเป็นปัญหาอะไรที่หนักอกเป็นอย่างมาก ถึงมันจะเล็กก็เถอะแต่มันก็หนักใจอยู่นะ จะใส่เสื้อผ้าอะไรก็ไม่สวย ใส่แล้วไม่รู้ว่าข้างหน้าหรือข้างหลังเลย คิดแล้วกลุ้มใช่มั้ยละคะ อย่านอยไปค่ะ ชุดชั้นในช่วยเราได้ค่ะ

คือการที่มีหน้าอกเล็กนั้นให้คุณเลือกซื้อชุดชั้นในในแบบที่มีฟองน้ำเสริมซึ่งปัจจุบันนี้เค้าก็มีออกมาให้คุณเลือกกันหลายแบบหลายยี้ห้อ จะชอบแนวน่ารัก เซกซี่ เรียบร้อย หรือออกแนวสปอทอะไรก็ว่าไปแล้วแต่คุณชอบ ก็จัดมาเลยค่ะชุดชั้นในดันทรงสัก 1 ชุด

จากนั้นก็ให้คุณไปหาซื้อชุดชั้นในที่เป็นแบบซีลิโคน เป็นชุดชั้นในที่ไม่มีสาย ไม่มีตะขอด้านหลัง ใส่แล้วขะแนบเนื้อ และเน้นให้ดูมีหน้าอกมาขึ้น อีกทั้งชุดชั้นในซิลิโคนนี้ยังมีสีเดียวกับเนื้อของเราอีกทำให้ดูกลมกลืนเป็นหน้าอกของเราไปใหญื

จากนั้นเมื่อคุณใส่ชุดชั้นในที่เป็นซิลฺโ๕นแล้ว ให้คุณสวมชุดชั้นในดันทรงทับอีกชั้นหนึ่ง คราวนี้แแหละค่ะ ไม่ใหญ่ ไม่เด้ง ไม่ตู้มบ้างให้มันรู้ไปสิค่ะ ไม่ว่าคุณจะใส่ชุดไหนๆคราวนี้ก็เป็นที่มั่นใจได้เลยค่ะว่า ชั้นก็ตู้มนะยะ แล้วแอบหัวเราะในใจเบาๆนิดนึง แค่นี้ก็เปะเวอร์แล้วค่ะ ไม่ต้องเจ็บตัวด้วย

ขอบคุณคำแนะนำดีๆจากทาง http://www.108sexyshop.com

ประโยชน์ของคลอลาเจน

 

 

 

คลอลาเจน  คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกาย และร่างกายก็จะได้รับมาจากการรับประทานอาหาร เช่น สาหร่ายทะเล ถั่วเหลือง แก้วมังกร แอปเปิ้ล แตงกวา ปลาทู ปลาน้ำลุกต่างๆ ส้ม ฝรั่ง คะน้า และมะเขือเทศเป็นต้น

คลอลาเจนมีประโยชน์เป็นอย่างมาก คือ ช่วยในเรื่องการบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยในการบำรุงผิวพรรณโดยตรง ช่วยในการบำรุงหลอดเลือด บำรุงเส้นผมและเล็บ โดยคลอลาเจนมีประโยขน์กับผิวพรรณเป็นอย่างมากเพราะ จะช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ช่วยกระชับผิว ช่วยลดริ้วรอยต่างๆบนผิวหนัง ช่วยคงความเด็กไว้ให้ผิวพรรณได้อีกขั้นหนึ่ง

วิธีรักษาคลอลาเจนไม่ให้เสื่อมสลายเร็วก็คือ รับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้นไปที่การรับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินเยอะๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ ดื่อมน้ำวันละมากๆ และหลีกเลี่ยงกับการเผชิญแสงแดดโดยตรง

 

 

ทำไมต้องทำ SEO

 

วันนี้เราจะมาแนะนำบริการดีๆเกี่ยวกับเรื่อง SEO กัน โดยการทำ SEO  ในภาษาแบบบ้านๆก็คือการใช้วิธีต่างๆเพื่อที่จะดันให้เว็บไซต์อยู่ในอันดับแรกๆในหน้าค้นหาของ Google เช่น เวาลาเราอยากค้นหาเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีการบำรุงผิวพรรณ เราก็จะพิมคำว่า วิธีการบำรุงผิว ลงไปในช่องค้นหาของ Google แล้วกดค้นหา

เราก็จะเห็นเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับเรื่องการดูแลผิวพรรณขึ้นมา ซึ่งในความจริงแล้วหัวข้อที่ขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆเราก็มักจะคลิ๊กเข้าไปดูมันก่อนเสมอ เมื่อได้เรื่องที่สนใจแล้วเรื่องอันล่างๆก็คงไม่มีความหมายอีกต่อไป

ในทางธุรกิจก็เหมือนกันถ้าเว็บไซต์ของเราขายของอะไรสักอย่างหนึ่งเราก็คงอยากให้มีลูกค้าเข้ามาชมเว็บไซต์เรามากๆใช่มั้ยล่ะคะ แต่พอลองค้นหาชื่อของสินค้าที่เราขายผลที่ปรากฎขึ้นมามีสินค้าที่เราขายจริงแต่พอคลิ๊กเข้าไปดูไม่ใช่ของเว็บไซต์เราหนิ ปล้วเว็บไซต์เราอยู่ไหนล่ะ เป็นลูกค้าคงไม่มานั่งเลือกดูแน่ๆพอเจอของที่ต้องการแล้วเว็บท้ายอย่าหวังว่าเค้าจะเข้ามานั่งคลิ๊กดูอีก

ที่เล่ามาทั้งหมดนนี้ก็คือที่มาว่าทำไมต้องทำ เพื่อให้เว็บไซต์คุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น ให้สินค้าขายดีขึ้นนั่นเอง และสำหรับบริษัที่เปิดให้บริการทางด้านการทำ SEO ที่ดีมีคุณภาพ ได้ผลจริง และไม่ใช้วิธีที่เล่นตุกติกกับ Google ต้องที่นี่เลย https://creationcz.com/seo/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B3-seo/

 

อาหารป้องกันมะเร็ง

1.  ผักใบเขียว   ::  ผักใบเขียวทุกๆชนิดต่างก็อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารแตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็น วิตามิน แร่ธาตุ สารต่อต้านโรคต่างๆ  และที่สารที่ถือได้ว่าเป็นอะไรที่ผักทุกชนิดจะต้องมีนั่นก็คือ สารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถเข้าไปป้องกันและยับยั้งการทำงานของเชื้อมะเร็งได้ เช่น กระถิน คะน้า ผักบุ้ง ตำลึง เป็นต้น
2. แครอท  ::  แครอทนอกจากจะมีรสชาติกรอบอร่อยและมีสีสันสดใสแล้ว แครอทยังอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนที่สูงมากๆ ซึ่งเบต้าแคโรทีนที่เค้าว่าดีกันอย่างนู้นดีกันอย่างนี้ แล้วมันดีกันอย่างไรกันแน่มาอ่านกันเลย เบต้าแคโรทีน เป็นสารที่ช่วยซ่อมแซม เสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเม็ดเลือดขาวให้มีประสิทธิภาพในการดักจับและฆ่าเชื้อโรคได้ดีขึ้น และที่สำคัญเลยก็คือเบต้าแคโรทีนมีส่วนช่วยในการป้องกันและยับยั้งเชื้อมะเร็งได้
3. ผักกะหล่ำ  ::  ผักกะหล่ำ ไม่ว่าจะเป็น กะหล่ำปลี , ผักกาดขาว , บล็อกโคลี่ , ดอกกะหล่ำ หรือกะหล่ำปลีม่วง ก็มีส่วนช่วยในการยับยั้ง และป้องกันเชื้อมะเร็งได้ดีมากๆ เรียกได้ว่า ผักกะหล่ำเป็นหนึ่งในสุดยอดเซียนปราบเชื้อมะเร็งเลยก็ว่าได้ ซึ่งผู้ที่รับประทานผักชนิดนี้เป็นประจำจะสามารถลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ถึง 90% เลยทีเดียว
4. เต้าหู้  ::  เต้าหู้เป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่มีส่วนช่วยในการป้องกันและยับยั้งมะเร็งได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะมะเร็งในผู้หญิง เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งมดลูก มะเร็งรังไข่ และมะเร็งเต้านม เพราะจากผลการวิจัยที่ให้สตรีชาวญี่ปุ่นรับประทานเต้าหู้ทุกวันๆพบว่ามีอัตราเสี่ยงในการเกิดมะเร็งน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทานถึงเกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

อาการที่มากับการใส่รองเท้าส้นสูง

รองเท้าส้นสูงเป็นสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากกับสาวๆ เปรียบเสมือนอากาศที่ขาดไม่ได้เลยก็ว่าได้ เพราะ การใส่รองเท้าส้นสูงนอกจากจะทำให้ความสูงของคุณสาวๆเพิ่มมากขึ้น ยังเป็นการช่วยส่งให้เรียวขอของคุณผู้สาวๆดูเรียวงามมากขึ้น ดูสูงโปร่ง ดูบุคลิกภาพดี  ยิ่งถ้าเป็นการใส่รองเท้าส้นสูงคู่กับกางเกงยีนส์ตัวโปรดด้วยแล้ว ยิ่งเป็นอะไรที่ทำให้เรียวขาดูดีขึ้นสุดๆ

แต่คุณทราบหรือไม่ค่ะอาการที่มาพร้อมๆกับการใส่ส้นสูงเป็นเวลานานๆ และใส่บ่อยๆ ส่งผลเสีย หรือสร้างอาการอะไรให้คุณสาวๆบ้าง อย่างแรกเลยที่บริเวณน่องของคุณสาวๆจะเกิดเป็นก้อนเนื้อแข็งๆขึ้น เพราะเวลาที่ใส่ส้นสูง กล้ามเนื้อที่น่องของคุณจะเกร็งตัวอยู่ตลอดเวลาทำให้เลือดไม่สามารถมาหล่อเลี้ยงที่กล้ามเนื้อส่วนนี้ได้ บางครั้งจะรู้สึกเจ็บมากๆคล้ายๆกับการเกิดตะคริว

อาการถัดมาก็คือ ยะรู้สึกปวดบริเวณข้อเท้า ข้อเข่า แล้กล้ามเนื้อบริเวณต้นขา เพราะ ขาของคุณต้องทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา ต้องเกร็งอยู่ตลอดเวลา ถ้าเกิดอาการรุนแรงมากๆก็ส่งผลให้รู้สึกปวดหลังเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย อีกทั้งกล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะกลายเป็นกล้ามเนื้อที่มีความเปราะบาง บาดเจ็บได้ง่ายๆไปเลย ถ้าคุณยกของเร็วๆ หรือก้มตัวแบบเร็วๆ แค่นี้กล้ามเนื้อก็จะเกิดการบาดเจ็บแล้ว

ดังนั้นในการใส่รองเท้าส้นสูงควรใส่ในเฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น ถ้าเวลาไหนหลีกเลี่ยงได้ก็ให้หลีกเลี่ยง หรืออาจจะเปลี่ยนการใส่รองเท้าส้นสูงจากที่สูงปรี๊ดๆ มาเป็นรองเท้าส้นเตี้ยแทน สำหรับการเลือกรองเท้าก็สำคัญไม่ควรเลือกซื้อเพราะรองเท้าคู่นี้สวยถูกใจ แต่ควรเลือกซื้อเพราะรองเท้าคู่นี้ใส่สบาย พอดีกับเท้า และรองรับเท้าได้ดี เลือกรองเท้าที่มีความกว้างของส่วนหน้าให้มีความกว้างที่พอดีกับหน้าเท้าของเรา สุดท้ายคือถ้าเลือกใส่ส้นสูงก็ให้เปลี่ยนจากส้นเข็มมาเป็นสันหนาบ้างจะดีมาก

ผักผลไม้รักษาโรค

 

1.  ขึ้นฉ่าย –  ขึ้นฉ่ายเป็นพืชที่มีลักษณะของลำต้นภายในกลวงแต่ดูจาภายนอกจะกลม ใบเป็นใบหยักแฉกลึก กลิ่นของต้นขึ้นฉ่ายจะหอมแต่ค่อนข้างฉุน ต้นขึ้นฉ่ายจะเจริญเติบโตได้ดีในอากาศที่ชื้นและเย็น เมื่อนำมาต้มกับน้ำสะอาด แล้วกรองเอาแต่น้ำเก็บไว้ ใช้ดื่มบรรเทาอาการไอ ช่วยในการขับเสมหะ ได้เป็นอย่างดี
2. กระเจี๊ยบแดง  –  สาวๆที่กำลังเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือโรคไขมันในเส้นเลือด มาฟังทางนี้เลยค่ะ การรับประทานกระเจี๊ยบแดงสามารถช่วยคุณได้ โดย คุณนำเอากลีบเลี้ยงของต้นกระเจี๊ยบที่ผ่านการตากแดดจนแห้งและมีสีแดงแล้ว มาต้มกับน้ำสะอาด เติมน้ำตาลทราย และเกลือป่นเล็กน้อย ชิมรสตามใจชอบ จะช่วยในเรื่องของการลดไขมัน สำหรบผู้ที่กำลังเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบให้นำเมล็ดของต้นกระเจี๊ยบแดงมาบดให้ละเอียดชงกับน้ำร้อนดื่มจะช่วยได้
3. กระทียม  –  เมื่อใดที่คุณมีอาการปวดฟันให้นำกระเทียมบดผสมเกลือแล้วนำไปพอกไว้ยังบริเวณฟันที่ปวด จะช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้ ถัดมาคือ กระเทียมเมื่อรับประทานสดจะสามารถช่วยลดความดันโลหิตในเลือดได้ อีกทั้งกระเทียมยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย
4. มะตูม  –  มะตูมเป็นพืชสมุนไพรที่เหมาะกับผู้คนเมืองร้อนมากที่สุด เพราะมะตูมจะช่วยในเรื่องการทำให้ร่างกายเย็น แก้กระหายน้ำ ช่วยให้เจริญอาหาร โดนการนำผลมะตูมมาตากแห้ง จากนั้นนำไปต้มในน้ำสะอาด เติมน้ำตาลลงไป ชิมรสตามใจชอบ ใช้ดื่มแก้กระหาย และเพื่อบำรุงร่างกาย

ลักษณะประจำเดือนที่มีความปกติ

 

 

1.  ประจำเดือนมาครบในทุกๆเดือน แต่ละครั้งจะห่างกัน 28 วัน บวกลบ 7 วัน ดั้งนั้นในสาวๆที่มีประจำเดือนมา 21 – 35 วันมา 1 ครั้ง ถือว่ามีความปกติดี
2. ระยะเวลาในการมาของประจำเดือน ไม่ควรมานานเกิน 7 วัน โดยลักษณะของประจำเดือนที่ดี วันแรกที่ประจำเดือนมาจะมาไม่มาก แต่จะมามากในวันที่ 2 และ 3 ถัดจากสามวันนี้ประจำเดือนจะเริ่มลดน้อยลง และหายไปโดยไม่ควรเกิน 7 วัน
3. สีของเลือดประจำเดือนที่ปกติ จะมีสีแดงค่อนข้างไปทางคล้ำหน่อย แต่ไม่ใช้เลือดที่มีสีแดงสด ถ้าในสาวๆคนไหนที่มีเลือดประจำเดือนสีดำคล้ำออกมาในช่วงก่อนหรือหลังการมีประจำเดือนนั้นถือว่าปกติ
4. ไม่มีก้อนเลือด , ไม่มีเศษเนื้อที่มีขนาดใหญ่ และไม่มีกลิ่นคาวปนออกมา โดยทั่วไปในประจำเดือนของสาวๆจะมีลิ่มเลือดและเศษเนื้อหรือเศษเยื่อบุโพรงมดลูกที่มีลักษณะคล้ายๆกับเยื่อไผ่ปนออกมาเล็กน้อยๆปนออกมานั้นถือว่าไม่ผิดปกติอะไร แต่หากมีก้อนเนื้อหรือลิ่มเลือดที่ปนออกมามีความยาวของเส้นผ่านศูนย์กลางเกิน 2 เซนติเมตร ถือได้ว่ามีความผิดปกติแล้ว
5. ไม่เป็นไข้ขณะมีประจำเดือน เนื่องการการที่มีไข้เมื่อมีประจำเดือนจะเป็นการบ่งบอกถึงการอักเสบ การติดเชื้อภายในมดลูก หรือภายในอุ้งเชิงกราน

วิธีเติมน้ำให้กับผิว

 

1.  การดื่มน้ำ  –  ในวันวันหนึ่งร่ายกายของเราจะสูญเสียน้ำไปกับการทำกิจกรรม เช่นการออกกำลังกาย การทำงาน หรือในวันที่อากาศร้อนๆ ร่างกายจะสูญเสียน้ำมาเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นในแต่ละวันควรดื่มน้ำให้ได้ 8 – 10 แก้ว

2.  น้ำมันมะกอก  –  แต่ก่อนนั้นสาวๆชาวกรีกโรมัน สามารถทำให้ตนเองคงความสวยอยู่ได้นานๆ ซึ่งเคล็ดลับนี้ถูกถ่ายทอดและปฏิบัติสืบต่อกันมานานหลายพันปี เพราะคุณประโยชน์ของน้ำมันมะกอก เมื่อนำมาทาผิวพรรณ จะช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้ง และขาดความชุ่มชื่้นให้กลับมาเรียบเนียน และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ในการทาน้ำมันมะกอกผิวจะเหมือนมีฟิล์มบางๆเคลือบไว้ แต่จะไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหน่ะ

3.  เพิ่มความสดชื่นให้ผิวในระหว่างวัน  –  ในวันที่อากาศร้อนๆ หรือในกรณีที่คุณต้องไปเผชิญกับแสงแดดร้อนๆ  หรือต้องนั่งทำงานในห้องแอร์ตลอดทั้งวัน เหตุผลต่างๆเหล่านี้จะเป็นตัวที่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นได้ง่าย เพราะฉะนั้นในระหว่างวันให้ลองหาน้ำแร่ใส่ขวดสเปรย์เล็ก มีฉีกพรมที่บริเวณใบหน้าในระหว่างวัน จะช่วยทำให้ผิวสดชื่น และผ่อนคลาย