ระยะของเซลลูไลต์

            ฮั่นแน่.. อน่าเพิ่งสังสัยทำคิ้วขมวดไปค่ะ กับหัวข้อที่เราจะนำข้อมูลมาเสนอกันวันนี้ ว่าเซลลูไลต์นั้นมีระยะด้วยหรอ เซลลูไลต์นะไม่ใช่มะเร็ง เพื่อเป็นการไขข้อข้องใจกันก็ตามมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ เซลลูไลต์นั้น จะแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะด้วยกัน คือ ระยะ 0 ถึง ระยะ3

ระยะ 0

           –  ระยะนี้เป็นระยะที่ผิวของคุณยังสมบูรณ์ปกติดีอยู่อยู่ และ เป็นระดับที่ไม่ค่อยหน้าเป็นห่วงเท่าไหร่เพราะในระยะนี้การไหลเวียนของโลหิตยังดีอยู่ ประกอบกับการเรียงตัวของไขมันที่อยู่บริเวณชั้นผิวก็ยังดีอยู่ ถึงคุณจะใช้มือบีบ หรือกดลงไป ก็จะพบแค่รอยบุ๋มๆเท่านั้น ไม่พบลักษณะผิวที่เป็นคลื่นหรือผิวส้ม

ระยะ 1

            –  ระยะนี้เป็นระยะแรกเริ่มของการเกิดเซลลูไลต์ โดยเราจะสามารถมองเห็นผิวของเราเป็นคลื่นๆแต่เพียงบางๆเท่านั้น ไม่ถึงกับชัดมาก เมืองลองใช้มือบีบๆหรือคลำๆดูนั้นจะรู้สึกได้ถึงก่อนไขมันเล็กๆ อยู่ ถ้าระยะนี้ได้รับการแก้ไขหรือกำจัดเซลลูไลต์ที่ตรงจุด จะได้ผลดีมากๆซึ่งระยะนี้หนังกำพร้าและหนังแท้ของคุณยังมีความแข็งแรงอยู่ แม้ว่าเส้นเลือกฝอยจะถูกทำลายไปเพราะการที่ได้รับอาหารมาล่อเลี้ยงไม่พอก็ตาม

ระยะ 2

           –  ระยะนี้เป็นระยะที่เซลลไลต์เริ่มก่อตัวขึ้น เมื่อคุณทำกิจวัตรประจำวันเช่นการนอน การนั่ง ก็จะมองไม่เห็น หรือ เห็นไม่ชัด แต่เมื่อคุณเดินหรือยืนนั้น เจ้าเซลลูไลต์ที่ไม่พึ่งประสงค์จะออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เพราะเมื่อคุณยืนหรือเดินผิวจะเกิดการบีบอัดกันทำให้เซลลูไลต์เด่นชัดขึ้นมา ระยะนี้เป็นระยะที่เส้นเลือดฝอยมีการสะสมของของเหลวอยู่มาก จึงได้รับการไหลเวียนของเลือดได้ไม่ดีพอ ซึ่งส่งผลให้หนังแท้เสื่อมสภาพไป

ระยะ 3

           –  ระยะนี้เรียกได้ว่าขั้นวิกฤตเลยทีเดียวเพราะไม่ว่าคุณจะอยู่ในอิริยาบทไหน จะยืน จะเดิน จะนั่น หรือ จะนอน ก็สามารถเห็นผิวเปลือกส้มที่แสนจะขรุขระของคุณได้ชัดเจน ในบางรายรุนแนงถึงขั้นที่เมือใช้นิ้วกดลงไปแล้วรู้สึกเจ็บ หรือ รู้สึกเป็นก้อนแข็งๆ ในระยะนี้ระบบเผาผลาญของเซลล์นั้นจะทำงานอย่างด้อยประสิธิภาพมากๆ จึงควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วยเลยหล่ะค่ะ

ประโยชน์ของถั่วฝักยาว

 

ถั่วฝักยาวหรือที่บางคนรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “ ถั่วค้าง ” ถั่วฝักยาวนั้นเป็นพืชในตระกูลไม้เลื้อยชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นฝักสีเขียวๆยาวๆ ซึ่งตามหลังบ้านของใครหลายๆคนก็จะมีเจ้าต้นถั่วนี้ปลูกอยู่ด้วย อีกทั้งถัวฝักยาวยังได้รับความนิยมรับประทานกันอย่างมาก  ไม่ว่าจะนำไปทำเป็นอาหารคาว ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด แกง ทอด หรือนำไปต้มจิ้มกับน้ำพริก ไม่ก็รับประทานสดๆเป็นผักแนมเวลารับประทานอาหาร ก็จะได้รสชาติของความอร่อยที่หลากหลาย

ประโยชน์ของถั่วฝักยาวก็คือ ในถั่วฝักยาวจะอุดมไปด้วย แคลเซียม แคลเซียมมีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟัน ป้องการการเกิดโรคกระดูกพรุน  ฟอสฟอรัส ฟอสฟอรัส มีส่วนช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และ โปรตีน อีกทั้งยังคอยควบคุมการทำงานของไต ช่วยเสริมสร้างเหงือกและฟัน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยทำให้วิตามินบีทำงานได้ตามปกติ วิตามินซี วิตามินซีมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคไขหวัด ช่วยในการรักษาแผลสดให้หายไว  ลดอาการเลือดออกตามไรฟัน  ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ

ประโยชน์ทางสมุนไพร

ราก  –  รากเมื่อนำมาเผาตำพอแหลกๆผสมกับน้ำแล้วนำมาพอกในบริเวณที่มีแผลเป็นหนอง หนองใน แผลที่มีหนอง

ใบ  – ใบของถั่วฟักยาว ถ้านำมาต้มกับน้ำสะอาด ประมาณ 100 กรัม จะช่วยรักษาโรคหนองใน และ ปัสสาวะเป็นหนอง

เมล็ด  –  เมล็ดเมื่อนำมาต้มกับน้ำสะอาดแล้วนำมาดื่มจะมีส่วนช่วยบำรุงม้าม ไต แก้อาเจียน ปัสสาวะกะปริบกะปรอย แก้กระหายน้ำ ช่วยในเรื่องของตกขาว

ฝัก  –  ฝักของถั่วฝักยาวสดนำมาตำพอแหลกและนำมาพอกบริเวณที่มีอาการปวดบวม จะช่วยบรรเทาอาการได้

ถ้ารู้ประโยชน์ของถั่วฝักยาวว่ามีดีขนาดนี้ก็ลองหากระถางเล็กๆมาลองปลูกไว้ใช้ในบ้านกันดูนะคะเพราะเราสามารถนำต้นถั่วฝักยาวมาใช้ได้ทั้งต้น ซึ่งวิธีการปลูกก็ง่ายแสนง่ายโดย ขุดหลุมแล้วใส่เมล็ดลงไปสัก 4 เมล็ด หาไม้มาปักไว้สักหน่อยเพื่อให้ถั่วฝักยาวไว้เลื้อย ที่สำคัญคือ ควรหมั่นรดน้ำบ่อยๆ เพราะถั่วฝักยาวเป็นพืชที่ชอบน้ำ

หลอดเลือดหัวใจตีบ

 สาเหตุของโรค

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบนั้นสามารถเกิดได้จากสาเหตุหลายประการ ก็คือ ส่วนใหญ่มักจะเกิดในผู้สูงอายุ ,ในผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ,ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง , ผู้ที่เป็นโรคอ้วน ผู้ที่สูบบุหรี่ , ผู้ที่เป็นโรคไขมันในโลหิตสูง , ผู้ที่เป็นโรคเครียด รวมไปถึง  ผู้ที่มีคนในครอบครัวเคยมีประวัติการเป็นโรคหัวใจมากก่อน  และ  สาเหตุหลักๆของการเกิดโรคหัวใจตีบตันก็คือ การที่มีไขมันไปอุดที่บริเวณผนังหลอดเลือดหัวใจ

โดยผู้ป่วยที่มีไขมันมาเกาะที่ผนังหลอดเลือดหัวใจมากกว่า 50% นั้นจะเริ่มมีอาการ รู้สึกเจ็บๆ และ รู้สึกแน่นๆที่บริเวณหน้าอก โดยความรู้สึกเจ็บนั้นจะเป็นความที่รู้สึกเจ็บร้าวๆเหมือนมีอะไรมาบีบ หรือ กดทับลงบนหน้าอก ทำให้รู้สึกหายใจไม่ออก รู้สึกจุกที่บริเวณคอ หน้าจะซีด เหงื่อจะออก ตัวจะเย็น  และ อาการเจ็บร้าวนั้นสามารถราบไปถึงบริเวณกรามและแขนซ้ายได้

อาการของโรค

โดยถ้าอาการของผู้ป่วยนั้น ถ้ารุนแรงมากๆถึงกับไม่สามารถนอนราบได้  หรือ ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ญาติหรือผู้พบเห็นก็ควรที่จะรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดนเร็วที่สูด เพราะผู้ป่วยอาจจะตกอยู่ในภาวะที่กล้ามเนื้อหัวใจกำลังขาดเลือด หรือ อาจเกิดหัวใจวายเฉียบพลันได้ ถ้าปล่อยไว้เป็นเวลานานโดยไม่ได้รับการรักษาก็จะเสียชีวิตได้ แนะนำว่าถ้าผู้ป่วยมีอาการเจ็บที่หน้าอกเกิดขึ้นก็ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล ไม่ต้องรอให้ถึงกับไม่สามารถนอนราบไม่ได้ เพราะอาจจะไม่ทันการ

ข้อปฏิบัติในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจตีบ

เริ่มจากการที่คุณต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันเยอะๆ ต้องคอยควบคุมน้ำหนักของตัวเอง ทำจิตใจให้ผ่อนคลายอยู่เสมอ อย่าเครียดมาก บางทีอาจจะหาเวลา นั่งสมาธิ สวดมนต์ เพื่อเป็นการทำจิตใจให้สงบ สบาย และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยๆสัปดาห์ละ 3 ครั้ง โดยการออกกำลังกายนั้นก็ไม่ควรที่จะออกกำลังกายตามใจตัวเอง ให้ปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้จะดีที่สุด เพราะจะรับคำแนะนำที่ถูกต้องและปลอดภัย

มะเร็งตับ

ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญมากๆอวัยวะหนึ่งในร่างกาย เพราะตับจะทำหน้าที่คอยกรองเอาสารพิษต่างๆออกมาจากกระแสโลหิต ซึ่งถ้าร่างกายของคนเราปราศจากซึ่งตับแล้วล่ะก็จะทำให้ร่างกายเกิดโรคร้ายต่างๆ เพราะร่างกายจะเกิดการสะสมของสารพิษ แต่อีกกรณีหนึ่งก็คือ ถ้าตับมีการสะสมของสารพิษมากๆ ก็จะทำตับเสื่อมประสิทธิภาพเร็วขึ้น อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับมากอีกด้วย

สาเหตุของโรคมะเร็งตับ

กรณีแรกก็คือ ผู้ที่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือ ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกวันและเป็นจำนวนมาก ,กรณีที่สองก็คือ ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อใดๆก็ตาม แต่ ในเนื้อปลา หอย และ กุ้งจะมรความเสี่ยงมาก กรณีที่สามก็คือ ชอบรับประทานพริกป่น  ข้าว ถั่วต่างๆ เพราะพวกนี้มักจะมีเชื้อราแอบแฝงอยู่ กรณีที่สี่ก็คือ ผู้ที่เคยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซี

อาการของโรคมะเร็งตับ

1.  พบก้อนเนื้อในท้องเมื่อลองคลำๆดู
2.  ตัวเหลือง  ตาเหลือง
3.  ไม่อยากรับประทานอาหาร และ น้ำหนักลด
4.  อาจมีอาการท้องมารเข้าร่วมด้วย
5.  เป็นไข้(อาการไม่จำเพาะ)
6.  มีอาการปวดท้องเรื้อรัง

มะเร็งตับถือว่าเป็นมะเร็งชนิดที่สามารักษาให้หายขาดได้ และ สามารถป้องกันได้ง่ายมากๆ แต่ส่วนใหญ่นั้นมะเร็งตับก็เป็นมะเร็งในอวัยวะที่พบได้มากเช่นกัน เพราะ การที่ตับนั้นได้รับสารพิษต่างๆสะสมอยู่มาก ทั้งจากอาหารการกิน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์  หรือ สิ่งต่างๆรอบๆตัวเราที่เราได้รับเข้าไป แต่ถ้าไม่พบในระยะแรกๆก็มีสิทธิที่จะเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็วเช่นกัน

อัลฟาอาบูติน

หลายๆคนคงจะเคยได้ยินชื่อของ ” อัลฟาอาบูติน หรือ อาบูติน ” กันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตามนิตยาสารต่างๆ ตามโฆณาผลิตภัณฑ์ด้านความสวยความงามต่างๆ  แต่ก็ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า ไอ้เจ้าอาบูติน หรือ อัลฟ่าอาบูตินที่ว่านี้ คืออะไร มีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงผิวพรรณได้อย่างไรบ้าง ใช้แล้วจะเป็นอย่างไร คำถามเหล่านี้แอดมินเชื่อเลยว่าต้องเกิดขึ้นในหัวของสาวๆหลายๆคน เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดใช่มั้ยล่ะคะที่เราจะใช้ผลิตภัณ์อะไรกับร่างกายของเราก็ควรจะทราบหรือรู้จักมันให้ดีเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดอาการแพ้ซึ่งจะส่งผลเสียไปกันใหญ่ แอดมินเลยไปสืบเซาะและหาคำตอบเพื่อไขข้อข้องใจต่างๆมาฝากกันค่ะ

อาบูตินคืออะไร

–  อัลฟาอาบูติน คือ สารสกัดชนิดหนึ่ง ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของ ไวท์เทนนิ่ง ซึ่งสารสกัดอัลฟ่าอาบูตินนี้จะเป็นอนุพันธ์ของสารในกลุ่มของ Hydroquinone ซึ่งสารนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเข้าไปทำการยับยั้งเมลานินที่อยู่บริเวณผิวหนังของคนเรา ซึ่งสารเมลานินก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสารนี้จะทำให้ผิวของเรามีสีเข้มขึ้น

ประโยชน์ของอัลฟาอาบูตินกับผิวพรรณ

1.  ช่วยยับยั้งการผลิตเมลานินที่บริเวณผิวหนัง
2.  ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า หรือ กระต่างๆ
3.  สามารถใช้ได้กับผิวทุกๆประเภท ทั้งผิวมัน ผิวแห้ง และผิวผสม
4.  ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น

ในการใช้ผลิตภัณฑ์ ใดๆก็ตามนั้น ก็ควรที่จะศึกษาลายระเอียดของผลิตภัณฑ์ ชนิดนั้นๆให้ดีเสียของ อีกทั้งไม่ควรคิดว่าเราใช้ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ต้องกลัวแสงแดดแล้ว หรือ ปล่อยป่ะละเลย ไม่ดูแลตัวเองให้ดีเท่าที่่ควร แอดมินของบอกเลยว่า ไม่ว่าคุณจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่แพงขนาดไหนก็ไม่ได้ผลอยู่ดี ถ้างั้นก็อย่าลืมเอาใจใส่ตัวเองด้วยนะคะ หมั่นทาครีมกันแดดให้เป็นนิสัยเพื่อปกป้องผิวที่คุณรักจากแสงแดด และ ลดอัตตราเสี่ยงการเป็นมะเร็งผิวหนังอีกด้วย